'3 บจ.' พอร์ตธุรกิจแนวสูง ยอดออก 2.5 พันล้าน ขายได้ครึ่งเดียว

   "บล.กสิกรไทย" ชี้นักลงทุนเน้นระวังรับความเสี่ยงได้จำกัดหลังแผ่นดินไหวกระทบ

  "หุ้นกู้อสังหาฯ" ได้รับแรงสั่นสะเทือนหลังผ่านเหตุการณ์ แผ่นดินไหวเมียนมา สะท้อนผ่าน "3 บจ." มีพอร์ตโครงการแนวสูง เสนอขายมูลค่า 2.55 พันล้าน กลับขายได้เพียง 1.34 พันล้าน "บล.กสิกรไทย" ชี้นักลงทุนระวัง รับความเสี่ยงได้จำกัด คัดกรองมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นกังวลจนหยุดลงทุน "ไทยบีเอ็มเอ" เผยนักลงทุนน่าจะกังวลหุ้นกู้อสังหาฯ เพิ่มขึ้นย้ำเกาะติดสถานการณ์

   นายกรกฏ กมลเนตรพิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในเดือนเม.ย. 2568 พบว่า "หุ้นกู้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์" ยังมียอดขายไม่ครบตามที่เสนอขายค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มอสังหาฯ แนวสูง หรือบริษัทที่มีภาระหนี้ระดับสูงแต่เดิม ทั้งนี้ สาเหตุเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ที่ส่งผลกระทบต่อตึกสูงทั่วกรุงเทพฯ (กทม.) ดังนั้น จึงเป็นภาพที่ทำให้นักลงทุน "ระมัดระวัง" และคัดเลือกหุ้นกู้ของบริษัทในกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น และนักลงทุนมองว่าอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และอาจจะนำไปสู่ การชะลอการลงทุนได้

   ทั้งนี้ พบหุ้นกู้อสังหาฯ ทั้งหมด 6 รุ่น จาก 3 บริษัท มียอดเสนอขายรวม 2,550 ล้านบาท เสนอขายได้รวม 1,343 ล้านบาท คงเหลือทั้งสิ้น 1,207 ดังนี้

   1. บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ AWS จำนวน 2 รุ่น วัตถุประสงค์ Rollover ในเดือนพ.ค. 2568 ได้แก่ AWS274A และ AWS284A มียอดเสนอ ขายรวม 750 ล้านบาท สามารถขายได้ เพียง 290 ล้านบาท และ 360 ล้านบาท คงเหลือทั้งสิ้น 100 ล้านบาท

   2. บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI จำนวน 2 รุ่น วัตถุประสงค์ Rollover ในเดือนเม.ย. 2568 ได้แก่ รุ่น ORI284A มียอดเสนอขาย 600 ล้านบาท สามารถขายได้เพียง 223 ล้านบาท คงเหลือ 377 ล้านบาท และ รุ่น ORI294B ยอดเสนอขาย 700 ล้านบาท สามารถขายได้เพียง 259 ล้านบาท คงเหลือ 441 ล้านบาท

   และ 3. บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF จำนวน 2 รุ่น วัตถุประสงค์ Rollover ในเดือนพ.ค. 2568 ได้แก่ รุ่น PF260A และ รุ่น PF271A มียอดเสนอขายรวม 500 ล้านบาท สามารถขายได้เพียง 12 ล้านบาท และ 199 ล้านบาท คงเหลือทั้งสิ้น 289 ล้านบาท

   นายกรกฎ กล่าวต่อว่า จากยอดขายหุ้นกู้ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หดตัวลงจากกลุ่มอสังหาฯ ที่ได้รับผลกระทบเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา และความไม่แน่นอนของสงครามการค้าสหรัฐกับประเทศคู่ค้าต่างๆ น่าจะส่งผลต่อตลาดในภาพรวมบ้าง และทำให้นักลงทุนแต่ละกลุ่มพิจารณาเลือกหรือคัดกรองการลงทุนหุ้นกู้ในบริษัทที่รับความเสี่ยงได้จำกัดขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่ถึงขั้นกังวลจนหยุดลงทุนทั้งหมด

    แต่มองว่ากลุ่มอสังหาฯ แนวสูง หรือบริษัทที่มีภาระหนี้สูงแต่เดิม เกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่กระทบตึกสูงทั่วกรุงเทพฯ เป็นภาพที่ทำให้นักลงทุนระมัดระวังและคัดเลือกหุ้นกู้ของบริษัทในกลุ่มนี้มากยิ่งขึ้น และนักลงทุนมองว่าอาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่การชะลอการลงทุนได้

   อย่างไรก็ตามกลุ่มอสังหาฯ ใช้วิธีบริหารจัดการส่วนใหญ่จะมีธนาคารที่มี ความสัมพันธ์เดิม ที่มีวงเงินสินเชื่อ พร้อมให้เบิกใช้ได้ หรืออาจมีทางเลือกในการเพิ่มทุนบริษัท ส่วนในระยะกลางเร่งทำตลาดขายสินค้าในมือออก เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และลดการลงทุนใหม่ลง

   นางสาวศิรินาถ อมรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและวิเทศสัมพันธ์ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า สำหรับบริษัทที่มีการเสนอขายหุ้นกู้ได้ไม่ครบกระจุกตัวในเดือนเม.ย. นี้ หลักๆ อยู่ในกลุ่มอสังหาฯ ที่มีเครดิตเรตติ้งไม่สูง ไม่เป็นที่รู้จักนัก หรือเป็นบริษัทที่ผู้ลงทุน มีความกังวลอยู่แล้ว และมองว่านักลงทุนน่าจะมีความกังวลเพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ซึ่งกระทบโครงการอาคารสูง และการเก็บภาษีศุลกากร (Tarriff) ของสหรัฐ ที่จะกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และกำลังซื้อในภาพรวม

   อย่างไรก็ตาม เรายังพบว่า บริษัทอสังหาฯ อีกหลายรายที่เป็นนักลงทุนมีความเชื่อถือ แม้เครดิตเรตติ้งไม่สูงมากก็ยังสามารถขายได้ครบ ดังนั้น ตอนนี้สมาคมฯ ยังคงเฝ้าดูสถานการณ์ความกังวลว่าจะมีแนวโน้มในทิศทางใด